DOS and DDOS Attack

การโจมตีแบบ DoS (Denial of Service) และ DDoS (Distributed Denial of Service) เป็นรูปแบบของการโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่การทำให้เป้าหมายไม่สามารถใช้งานได้ โดยหลักการทั้งสองแบบเหมือนกัน คือการทำให้เป้าหมายได้รับปริมาณการใช้งานที่มากเกินไปจนไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ แต่ทั้งสองรูปแบบการโจมตียังมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการโจมตีแบบ DoS และ DDoS คือแหล่งที่มาของปริมาณการใช้งาน โดยการโจมตีแบบ DoS เป็นการโจมตีจากแหล่งที่มาเพียงแหล่งเดียว ในขณะที่การโจมตีแบบ DDoS เป็นการโจมตีจากแหล่งที่มาจำนวนมากในเวลาเดียวกัน

การโจมตีแบบ DoS (Denial of Service) และ DDoS (Distributed Denial of Service)

เป็นรูปแบบของการโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่การทำให้เป้าหมายไม่สามารถใช้งานได้ โดยหลักการทั้งสองแบบเหมือนกัน คือการทำให้เป้าหมายได้รับปริมาณการใช้งานที่มากเกินไปจนไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้ได้

แต่ทั้งสองรูปแบบการโจมตียังมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการโจมตีแบบ DoS และ DDoS คือแหล่งที่มาของปริมาณการใช้งาน โดยการโจมตีแบบ DoS เป็นการโจมตีจากแหล่งที่มาเพียงแหล่งเดียว ในขณะที่การโจมตีแบบ DDoS เป็นการโจมตีจากแหล่งที่มาจำนวนมากในเวลาเดียวกัน

การโจมตีแบบ DoS สามารถดำเนินการได้โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น

  • SYN flood attack: เป็นการโจมตีที่ส่งคำขอเชื่อมต่อจำนวนมากไปยังเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่ค้างอยู่ในระบบของเป้าหมายจนไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้อื่นๆ ได้
  • UDP flood attack: เป็นการโจมตีที่ส่งแพ็กเก็ต UDP จำนวนมากไปยังเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้เกิดปริมาณการใช้งานที่มากเกินไปจนทำให้เป้าหมายไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้ได้
  • ICMP flood attack: เป็นการโจมตีที่ส่งแพ็กเก็ต ICMP จำนวนมากไปยังเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้เกิดปริมาณการใช้งานที่มากเกินไปจนทำให้เป้าหมายไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้ได้

การโจมตีแบบ DDoS สามารถทำได้โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น

  • Botnet: เป็นการโจมตีที่ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ติดเชื้อมัลแวร์ ซึ่งจะควบคุมอุปกรณ์เหล่านั้นให้ส่งปริมาณการใช้งานจำนวนมากไปยังเป้าหมาย
  • Application layer attack: เป็นการโจมตีที่ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ของเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้เกิดการตอบสนองที่มากเกินไปจนทำให้เป้าหมายไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้ได้

ตัวอย่างการโจมตี DOS and DDOS Attack

ตัวอย่างการโจมตีแบบ DoS

  • SYN Flood เป็นการโจมตีระบบโดยการส่งแพ็กเก็ต SYN จำนวนมากไปยังเป้าหมาย ระบบเป้าหมายจะตอบสนองโดยส่งแพ็กเก็ต SYN-ACK กลับไปยังผู้โจมตี แต่เนื่องจากผู้โจมตีปลอมแปลงที่อยู่ IP ต้นทางสำหรับแต่ละแพ็กเก็ต ระบบเป้าหมายจึงไม่สามารถระบุได้ว่าแพ็กเก็ต SYN-ACK ใดถูกต้อง และอันใดไม่ใช่ เป็นผลให้ระบบเป้าหมายใช้ทรัพยากรทั้งหมดตอบสนองต่อแพ็กเก็ต SYN ปลอม และการรับส่งข้อมูลที่ถูกต้องไม่สามารถรับการตอบกลับได้
  • Ping Flood เป็นการโจมตีระบบโดยการส่งแพ็กเก็ต ICMP Echo Request จำนวนมากไปยังเป้าหมาย ระบบเป้าหมายจะตอบสนองโดยส่งแพ็กเก็ต ICMP Echo Reply กลับไปยังผู้โจมตี แต่เนื่องจากผู้โจมตีส่งแพ็กเก็ต ICMP Echo Request จำนวนมาก ระบบเป้าหมายจึงไม่สามารถตอบสนองต่อแพ็กเก็ตทั้งหมดได้ เป็นผลให้ระบบเป้าหมายใช้ทรัพยากรทั้งหมดตอบสนองต่อแพ็กเก็ต ICMP Echo Request และการรับส่งข้อมูลที่ถูกต้องไม่สามารถรับการตอบกลับได้
  • UDP Flood เป็นการโจมตีระบบโดยการส่งแพ็กเก็ต UDP จำนวนมากไปยังเป้าหมาย ระบบเป้าหมายจะตอบสนองโดยส่งแพ็กเก็ต UDP กลับไปยังผู้โจมตี แต่เนื่องจากผู้โจมตีส่งแพ็กเก็ต UDP จำนวนมาก ระบบเป้าหมายจึงไม่สามารถตอบสนองต่อแพ็กเก็ตทั้งหมดได้ เป็นผลให้ระบบเป้าหมายใช้ทรัพยากรทั้งหมดตอบสนองต่อแพ็กเก็ต UDP และการรับส่งข้อมูลที่ถูกต้องไม่สามารถรับการตอบกลับได้

ตัวอย่างการโจมตีแบบ DDoS

  • DNS Amplification Attack เป็นการโจมตีระบบโดยการส่งคำขอ DNS ไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS จำนวนมาก จากนั้นเซิร์ฟเวอร์ DNS เหล่านั้นจะตอบกลับคำขอด้วยคำตอบ DNS ขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถส่งปริมาณการใช้งานจำนวนมากไปยังเป้าหมายได้
  • HTTP Flood เป็นการโจมตีระบบโดยการส่งคำขอ HTTP จำนวนมากไปยังเป้าหมาย ส่งผลให้เป้าหมายไม่สามารถให้บริการ HTTP ได้
  • ICMP Flood เป็นการโจมตีระบบโดยการส่งแพ็กเก็ต ICMP จำนวนมากไปยังเป้าหมาย ส่งผลให้เป้าหมายไม่สามารถให้บริการ ICMP ได้

การโจมตีแบบ DoS และ DDoS มักถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การเรียกร้องค่าไถ่ การประท้วงทางการเมือง การโจมตีทางการแข่งขัน เป็นต้น องค์กรต่างๆ ควรมีมาตรการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีแบบ DoS และ DDoS เช่น การติดตั้งระบบป้องกันไฟร์วอลล์ การกรองทราฟฟิก และการตรวจสอบเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอ

ตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

DOS

ตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในปี 2023 คือ การโจมตีแบบ DoS ที่มุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยแฮกเกอร์ได้ส่งคำขอจำนวนมากไปยังเว็บไซต์ของธนาคารอย่างรวดเร็ว จนทำให้เว็บไซต์ล่มเป็นเวลาหลายชั่วโมง เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการของธนาคารจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของธนาคารเพื่อใช้บริการได้

ผลกระทบจากเหตุการณ์การโจมตีแบบ DoS ที่มุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคารในปี 2023 นี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการของธนาคารจำนวนมาก ดังนี้

  • ไม่สามารถให้บริการได้: การโจมตี DoS ได้ทำให้เว็บไซต์ของธนาคารไม่สามารถให้บริการผู้ใช้ได้ ผู้ใช้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงิน, ตรวจสอบยอด, หรือทำธุรกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการของธนาคารได้.
  • ทำให้เกิดความไม่พอใจจากลูกค้า: ผู้ใช้บริการที่ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของธนาคารเพื่อใช้บริการมีความไม่พอใจ และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความไว้วางใจของธนาคาร.
  • สูญเสียรายได้: ธนาคารมีความสูญเสียทางการเงินจากการไม่สามารถให้บริการตามปกติได้ ไม่เพียงแต่จากรายได้ที่ลดลง, แต่ยังมีค่าใช้จ่ายในการกู้คืนและป้องกันการโจมตีในอนาคต.
  • ความไม่มั่นคงของธนาคาร: เหตุการณ์ DoS ทำให้ระบบของธนาคารไม่มีความมั่นคง, ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งในการทำธุรกรรมทางการเงินและอาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ยุติความสัมพันธ์กับลูกค้า.
  • สูญเสียชื่อเสียง: เหตุการณ์ DoS ที่ทำให้เว็บไซต์ของธนาคารล่มนานนับชั่วโมงอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของธนาคาร ทำให้บริษัทหรือองค์กรส่งเสริมความเชื่อมั่นต่อระบบของตนเองจะต้องเผชิญกับความไม่พอใจจากสาธารณชน.

DDOS

ตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในปี 2023 คือ การโจมตีแบบ DDoS ที่มุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ของกระทรวงด้านความปลอดภัยของไทย โดยแฮกเกอร์ได้ส่งคำขอจำนวนมากไปยังเว็บไซต์ของกระทรวงอย่างรวดเร็ว จนทำให้เว็บไซต์ของกระทรวงไม่สามารถให้บริการได้

ผลกระทบ
การโจมตีแบบ DDoS ที่มุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ของกระทรวง ส่งผลกระทบต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น

  • การขัดขวางบริการ (Service Disruption): การโจมตี DDoS ที่มีปริมาณข้อมูลมหาศาลสามารถทำให้เว็บไซต์ของกระทรวงไม่สามารถให้บริการได้ ผู้ใช้ที่พยายามเข้าถึงเว็บไซต์จะพบว่าไม่สามารถทำได้ ทำให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงด้านความปลอดภัยไม่สามารถใช้งานได้
  • ความไม่พอใจจากประชาชน: การไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือบริการจากรัฐบาลอาจทำให้ประชาชนไม่พอใจและส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจและความเชื่อมั่นในการให้บริการของรัฐบาล
  • ความเสียหายทางด้านภาพลักษณ์: การโจมตี DDoS ที่สำเร็จอาจทำให้รัฐบาลเสียหายทางภาพลักษณ์, ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของประชาชนและเกิดการลดเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยของข้อมูลรัฐบาล
  • ค่าใช้จ่าย: หลังจากการโจมตีสิ้นสุดลง กระทรวงจะต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูระบบ และป้องกันการเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคต และอาจต้องทำการปรับปรุงระบบที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการจัดการ

การโจมตีแบบ DDoS เกิดจากแฮกเกอร์ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่โจมตีหลายเครื่องพร้อมกัน เพื่อส่งคำขอไปยังเว็บไซต์เป้าหมายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์เป้าหมายไม่สามารถให้บริการได้ สาเหตุของการโจมตีแบบ DDoS อาจเป็นเพราะแฮกเกอร์ต้องการ

  • สร้างความเสียหายต่อเว็บไซต์เป้าหมาย
  • ขโมยข้อมูลหรือรหัสผ่านจากเว็บไซต์เป้าหมาย
  • สร้างสถานการณ์ความตื่นตระหนกหรือสร้างความโกลาหล
  • สร้างความขัดแย้งทางการเมือง

ข้อสังเกต DOS and DDOS Attack

ข้อสังเกตว่าโดนการโจมตีแบบ DoS และ DDoS มีดังนี้

  • ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ เป็นการสังเกตที่ง่ายที่สุด โดยการดูปริมาณการใช้งานในช่วงเวลาปกติและช่วงเวลาที่คาดว่าอาจมีการโจมตี หากพบว่าปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงเวลาดังกล่าว อาจเป็นไปได้ว่ากำลังถูกโจมตี
  • ระบบหรือบริการทำงานช้าหรือหยุดทำงาน หากระบบหรือบริการทำงานช้าหรือหยุดทำงานอย่างกะทันหัน อาจเป็นไปได้ว่ากำลังถูกโจมตี
  • บันทึกการรับส่งข้อมูลมีผิดปกติ หากตรวจสอบบันทึกการรับส่งข้อมูลแล้วพบว่ามีปริมาณการใช้งานจำนวนมากจากแหล่งที่มาที่ผิดปกติ อาจเป็นไปได้ว่ากำลังถูกโจมตี
  • ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ เป็นการสังเกตที่ง่ายที่สุด โดยการดูปริมาณการใช้งานในช่วงเวลาปกติและช่วงเวลาที่คาดว่าอาจมีการโจมตี หากพบว่าปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงเวลาดังกล่าว อาจเป็นไปได้ว่ากำลังถูกโจมตี
  • ระบบหรือบริการทำงานช้าหรือหยุดทำงาน หากระบบหรือบริการทำงานช้าหรือหยุดทำงานอย่างกะทันหัน อาจเป็นไปได้ว่ากำลังถูกโจมตี
  • บันทึกการรับส่งข้อมูลมีผิดปกติ หากตรวจสอบบันทึกการรับส่งข้อมูลแล้วพบว่ามีปริมาณการใช้งานจำนวนมากจากแหล่งที่มาที่ผิดปกติ อาจเป็นไปได้ว่ากำลังถูกโจมตี

วิธีป้องกัน DOS and DDOS Attack

วิธีป้องกันการโจมตีแบบ DOS และ DDoS มีดังนี้

1. ใช้ไฟร์วอลล์

ไฟร์วอลล์เป็นอุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่กรองการรับส่งข้อมูลเครือข่าย ไฟร์วอลล์สามารถช่วยป้องกันการโจมตีแบบ DOS และ DDoS ได้โดยบล็อกการรับส่งข้อมูลที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคาม เช่น next-generation firewall

2. กรองทราฟฟิกขาเข้า

การกรองทราฟฟิกขาเข้าเป็นกระบวนการตรวจสอบการรับส่งข้อมูลขาเข้าก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าสู่เครือข่ายของคุณ การกรองทราฟฟิกขาเข้าสามารถช่วยป้องกันการโจมตีแบบ DOS และ DDoS ได้โดยบล็อกการรับส่งข้อมูลที่ไม่ต้องการหรือน่าสงสัย

3. ใช้ Content Delivery Network (CDN)

CDN เป็นเครือข่ายศูนย์ข้อมูลทั่วโลกที่ทำหน้าที่จัดเก็บและส่งมอบเนื้อหาทางอินเทอร์เน็ต CDN สามารถช่วยป้องกันการโจมตีแบบ DOS และ DDoS ได้โดยกระจายโหลดการเข้าถึงเนื้อหาไปยังเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง

4. เพิ่มความแข็งแกร่งให้เซิร์ฟเวอร์ของคุณ

เซิร์ฟเวอร์ที่แข็งแกร่งสามารถทนต่อการโจมตีแบบ DOS และ DDoS ได้ดีกว่า เซิร์ฟเวอร์ที่แข็งแกร่งควรมีการปรับปรุงต่อไปนี้:

  • การใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพ
  • การใช้ซอฟต์แวร์ที่อัปเดตอยู่เสมอ
  • การตั้งค่าพารามิเตอร์เครือข่ายที่เหมาะสม

5. ตรวจสอบการรับส่งข้อมูลเครือข่ายของคุณ

การติดตามการรับส่งข้อมูลเครือข่ายของคุณจะช่วยให้คุณระบุการโจมตีแบบ DOS และ DDoS ได้อย่างรวดเร็ว การติดตามการรับส่งข้อมูลเครือข่ายของคุณสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบการบุกรุกหรือระบบตรวจสอบความปลอดภัยอื่นๆ

นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ในการป้องกันการโจมตีแบบ DOS และ DDoS เช่น การฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ การปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายของคุณอย่างสม่ำเสมอ

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับเพิ่มเติมในการป้องกัน DOS and DDOS Attack:

  • ใช้ชื่อโดเมนที่กำหนดเองแทนที่อยู่ IP สาธารณะ
  • ตั้งค่าการตรวจสอบความถูกต้องสองปัจจัย (2FA) สำหรับบัญชีผู้ใช้ทั้งหมด
  • สำรองข้อมูลเว็บไซต์และข้อมูลของคุณเป็นประจำ
  • แจ้งให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทราบหากเว็บไซต์ของคุณถูกโจมตี

การโจมตีแบบ DOS และ DDoS อาจเป็นอันตรายต่อธุรกิจและองค์กรต่างๆ การป้องกันตัวเองจากการโจมตีเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์และข้อมูลของคุณปลอดภัย

วิธีแก้ไข DOS and DDOS Attack

เมื่อโดนการโจมตีแบบ DOS หรือ DDoS แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องรีบดำเนินการเพื่อแก้ไขการโจมตีและลดผลกระทบต่อเป้าหมาย วิธีแก้ไขการโจมตีแบบ DOS และ DDoS มีดังนี้

1. ระบุแหล่งที่มาของการโจมตี

ขั้นตอนแรกในการแก้ไขการโจมตีคือต้องระบุแหล่งที่มาของการโจมตี สามารถทำได้โดยการตรวจสอบปริมาณข้อมูลขาเข้าไปยังเป้าหมาย และดูว่ามาจากแหล่งใดบ้าง

2. บล็อกที่อยู่ IP ของผู้โจมตี

เมื่อระบุแหล่งที่มาของการโจมตีแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการบล็อกที่อยู่ IP ของผู้โจมตี วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้โจมตีส่งข้อมูลไปยังเป้าหมายได้อีก

3. ปรับแต่งการตั้งค่าเครือข่าย

อาจจำเป็นต้องปรับแต่งการตั้งค่าเครือข่ายเพื่อลดผลกระทบจากการโจมตี เช่น การเพิ่มแบนด์วิดท์หรือลดจำนวนการเชื่อมต่อที่อนุญาตต่อ IP เดียว

4. ใช้บริการป้องกัน DDoS

หากเป้าหมายมีขนาดใหญ่หรือมีความสำคัญมาก อาจจำเป็นต้องใช้บริการป้องกัน DDoS บริการเหล่านี้สามารถช่วยกรองปริมาณข้อมูลขาเข้าที่ไม่ต้องการและป้องกันไม่ให้เป้าหมายตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี

5. กู้คืนจากความเสียหาย

หากการโจมตีทำให้เป้าหมายเสียหาย อาจจำเป็นต้องกู้คืนจากความเสียหาย วิธีนี้อาจรวมถึงการกู้คืนข้อมูล การซ่อมแซมระบบ หรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์

Share this post
Latest

Explore Our Blog Posts

Stay updated with our latest blog posts.

September 6, 2024

7 Types of Network Topology

Network Topology หรือ โครงข่ายอิเทอร์เน็ต หมายถึง โครงร่างทางกายภาพหรือเชิงตรรกะของเครือข่าย กำหนดวิธีการวางโหนดต่างๆ และเชื่อมต่อถึงกัน
September 2, 2024

Data Center สู่ยุค Hybrid Cloud ด้วย VMware Cloud Foundation

การนำคลาวด์เทคโนโลยี (Cloud Technology) มาเข้ามาเพื่อเพิ่มความความยืดหยุ่นให้กับการทำงานและช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว...
September 2, 2024

มาทำความรู้จักกับสายสัญญาณกันเถอะ Part 2 (Fiber Optic)

สมัยก่อนสายสัญญาณที่ใช้กับระบบเครือข่ายมักจะมีปัญหาของสายที่มีตัวนำเป็นโลหะ ปัญหานั้นก็คือสัญญาณที่วิ่งอยู่ภายในสายอาจจะถูกรบกวน....

Join our newsletter for updates

Stay informed with our latest news and promotions

By subscribing, you agree to our Terms and Conditions.
Thank you! We've received your submission.
Oops! Something went wrong. Please try again.