Next-Generation Firewall (NGFW)
Firewall เป็นอุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการรับส่งข้อมูลเครือข่าย และอนุญาตให้เฉพาะการรับส่งข้อมูลที่ได้รับอนุญาตผ่านเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ Firewall ก็คือยามรักษาความปลอดภัย ที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเรา มีหน้าที่คอยตรวจสอบคนที่เข้ามาและออกไปว่าเป็นคนที่มีสิทธิ์หรือไม่
ประเภทของ Firewall
Firewall แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้
- Packet Filtering Firewall: Firewall ประเภทนี้ตรวจสอบข้อมูลในแพ็กเก็ตเครือข่าย เช่น ที่อยู่ IP และหมายเลขพอร์ต เพื่อบอกว่าแพ็กเก็ตนั้นสามารถผ่านไฟร์วอลล์ได้หรือไม่
- Stateful Firewall: Firewall ตรวจสอบสถานะของการเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อกำหนดว่าแพ็กเก็ตนั้นสามารถผ่านไฟร์วอลล์ได้หรือไม่
- Application-level Firewall: Firewall ประเภทนี้ตรวจสอบเนื้อหาของแพ็กเก็ตเครือข่ายเพื่อกำหนดว่าแพ็กเก็ตนั้นสามารถผ่านไฟร์วอลล์ได้หรือไม่
- Next-generation Firewall (NGFW): Firewall ประเภทนี้ รวมเอาคุณสมบัติด้านความปลอดภัยต่างๆ ไว้ในอุปกรณ์เดียว เช่น การตรวจจับและป้องกันมัลแวร์ การควบคุมแอปพลิเคชัน และการตรวจจับการบุกรุก
Next-Generation Firewall (NGFW)
Next-Generation Firewall เปรียบเสมือนยามรักษาความปลอดภัยที่นอกจากตรวจสอบบัตรประชาชนของผู้ที่มาเยือนว่าเขามีสิทธิ์เข้ามาในบ้านของเราหรือไม่แล้วนั้น ยังคอยสังเกตพฤติกรรมของผู้มาเยือน หากผู้มาเยือนคนนั้นทำพฤติกรรมที่ผิดปกติ ยามรักษาความปลอดภัยก็จะแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ นอกจากนี้ ยามรักษาความปลอดภัยก็จะคอยตรวจสอบผู้มาเยือนว่าพกพาอาวุธหรือสิ่งของอันตรายหรือไม่
ข้อดีของการมี NGFW แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ดังนี้
1. ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
NGFW สามารถให้การป้องกันที่ครอบคลุมกว่าไฟร์วอลล์แบบเดิม โดยการเพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยอื่นๆ เช่น การตรวจจับและป้องกันมัลแวร์ การควบคุมแอปพลิเคชัน และการตรวจจับการบุกรุก คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้ NGFW สามารถปกป้องเครือข่ายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น มัลแวร์ การโจมตีแบบฟิชชิ่ง การโจมตีแบบ Zero-day และอื่นๆ
2. ความสามารถในการมองเห็นที่ดีขึ้น
NGFW สามารถให้ความสามารถในการมองเห็นที่ดีขึ้นเกี่ยวกับปริมาณการใช้งานเครือข่าย ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถระบุและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ความสามารถในการมองเห็นที่ดีขึ้นนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถ:
- ตรวจสอบปริมาณการใช้งานเครือข่ายเพื่อค้นหากิจกรรมที่ผิดปกติ
- วิเคราะห์ปริมาณการใช้งานเครือข่ายเพื่อระบุภัยคุกคามที่ซับซ้อน
- รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามเพื่อใช้ในการปรับปรุงกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัย
3. ความซับซ้อนที่ลดลง
NGFW สามารถช่วยลดความซับซ้อนของการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย โดยรวมเอาฟังก์ชันความปลอดภัยต่างๆ ไว้ในอุปกรณ์เดียว สิ่งนี้ช่วยให้องค์กรสามารถลดจำนวนอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่จำเป็นลง ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกในการจัดการ
4. ความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้น
NGFW สามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเครือข่ายที่หลากหลาย ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ สิ่งนี้ช่วยให้องค์กรสามารถปรับแต่ง NGFW ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของตน
ตัวอย่างประโยชน์ของ
- NGFW สามารถช่วยป้องกันไม่ให้มัลแวร์เข้าสู่เครือข่ายของคุณ
- NGFW สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลของคุณ
- NGFW สามารถช่วยปกป้องเครือข่ายของคุณจากการโจมตี DDoS
- NGFW สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายของคุณ
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเฉพาะของประโยชน์ของ NGFW
- การตรวจจับและป้องกันมัลแวร์: NGFW สามารถตรวจจับและบล็อกมัลแวร์ก่อนที่จะเข้าถึงเครือข่ายของคุณ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องข้อมูลและระบบของคุณจากการถูกโจมตี
- การควบคุมแอปพลิเคชัน: NGFW สามารถควบคุมว่าแอปพลิเคชันใดที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายของคุณได้ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันไม่ให้พนักงานเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับอนุญาต
- การป้องกันการบุกรุก: NGFW สามารถตรวจจับการโจมตีเครือข่ายและบล็อกไม่ให้สำเร็จ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องเครือข่ายของคุณจากการถูกแฮ็ก
- การวิเคราะห์ปริมาณการใช้งาน: NGFW สามารถวิเคราะห์ปริมาณการใช้งานเครือข่ายเพื่อค้นหากิจกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งสามารถช่วยระบุภัยคุกคามก่อนที่จะเกิดขึ้น
- การป้องกัน DDoS: NGFW สามารถป้องกันเครือข่ายของคุณจากการโจมตี DDoS ซึ่งสามารถช่วยปกป้องเครือข่ายของคุณจากการถูกขัดจังหวะ
หากคุณต้องการปรับปรุงความปลอดภัยของเครือข่ายของคุณ NGFW เป็นตัวเลือกที่ดีที่ต้องพิจารณา
ความเสี่ยงของการไม่ใช้ Next-generation Firewall (NGFW)
- ความเสี่ยงที่สูงขึ้นต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ NGFW มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยขั้นสูง ที่ช่วยปกป้องเครือ-ข่ายจากภัยคุกคามต่างๆ เช่น มัลแวร์ การโจมตีแบบ DDoS และการโจมตีแบบ Zero-day หากไม่มี NGFW เครือข่ายของคุณจะเสี่ยงต่อการโจมตีเหล่านี้มากขึ้น
- ประสิทธิภาพที่ลดลง NGFW สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่าย โดยกรองทราฟฟิกที่ไม่ต้องการ และลดการจราจรที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หากไม่มี NGFW ทราฟฟิกทั้งหมดจะต้องถูกประมวลผลโดยอุปกรณ์เครือข่าย ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง
- ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น NGFW อาจมีราคาแพงกว่าไฟร์วอลล์แบบเดิม อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักคุ้มค่ากับประโยชน์ด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างเหตุการณ์การโดนการโจมตีทางไซเบอร์ หากไม่ใช้ NGFW
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเฉพาะของภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่ใช้ NGFW
- Malware มัลแวร์เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเครือข่าย สามารถติดไวรัสไฟล์ เข้ารหัสข้อมูล หรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคล หากไม่มี NGFW มัลแวร์อาจสามารถเข้าสู่เครือข่ายของคุณได้โดยไม่ถูกตรวจพบ
- การโจมตีแบบ DDoS การโจมตีแบบ DDoS เป็นการโจมตีที่พยายามทำให้เครือข่ายหยุดทำงานโดยการส่งทราฟฟิกจำนวนมากไปยังเซิร์ฟเวอร์ หากไม่มี NGFW การโจมตีแบบ DDoS อาจทำให้เครือข่ายหยุดการทำงานได้ง่าย
- การโจมตีแบบ Zero-day การโจมตีแบบ Zero-day เป็นการโจมตีที่ใช้ประโยชน์ จากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หากไม่มี NGFW เครือข่ายของคุณอาจเสี่ยงต่อการโจมตีแบบ Zero-day
ตัวอย่างเหตุการณ์การถูกโจมตีทางไซเบอร์ เพราะไม่ใช้ NGFW ได้แก่
- การโจมตีแบบ Phishing
ในปี พ.ศ. 2566 บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยแฮกเกอร์ได้ส่งอีเมลปลอมแอบอ้างเป็นบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อหลอกล่อให้พนักงานของบริษัทดังกล่าวเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลทางการเงินอื่นๆ เมื่อพนักงานตกเป็นเหยื่อของการโจมตี ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ก่ออาชญากรรมต่างๆ เช่น การโอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร การสมัครสินเชื่อ หรือการเปิดบัตรเครดิต
หากบริษัทดังกล่าวมี NGFW ติดตั้งอยู่ ไฟร์วอลล์จะตรวจจับและบล็อกอีเมลปลอมดังกล่าวได้ ทำให้พนักงานของบริษัทดังกล่าวไม่ถูกหลอกล่อและข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกขโมยไป
- การโจมตีแบบ Ransomware
ในปี พ.ศ. 2567 โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยแฮกเกอร์ได้ติดตั้ง ransomware บนระบบเครือข่ายของโรงพยาบาล ทำให้ระบบเครือข่ายไม่สามารถใช้งานได้ โรงพยาบาลต้องจ่ายเงินค่าไถ่ให้กับแฮกเกอร์กว่า 10 ล้านบาท เพื่อขอปลดล็อกระบบเครือข่าย
หากโรงพยาบาลดังกล่าวมี NGFW ติดตั้งอยู่ ไฟร์วอลล์จะตรวจจับและบล็อกมัลแวร์ ransomware ดังกล่าวได้ ทำให้ระบบเครือข่ายของโรงพยาบาลไม่ถูกโจมตีและโรงพยาบาลไม่ต้องจ่ายเงินค่าไถ่
- การโจมตีแบบ Denial-of-service (DoS)
ในปี พ.ศ. 2568 เว็บไซต์ของธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยแฮกเกอร์ได้ส่งคำขอจำนวนมากไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ธนาคาร ทำให้เซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถให้บริการได้ เว็บไซต์ของธนาคารไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของธนาคารจำนวนมาก
หากธนาคารดังกล่าวมี NGFW ติดตั้งอยู่ ไฟร์วอลล์จะตรวจจับและบล็อกคำขอจำนวนมากดังกล่าวได้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ธนาคารไม่ถูกโจมตี และเว็บไซต์ของธนาคารสามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
จะเห็นได้ว่า การโจมตีทางไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ และอาจส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือบุคคลต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง การติดตั้ง NGFW เป็นมาตรการหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันองค์กรหรือบุคคลต่างๆ จากการโจมตีทางไซเบอร์ได้
หากองค์กรหรือบุคคลต่างๆ ต้องการปกป้องระบบเครือข่ายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ การติดตั้ง NGFW เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
ความแตกต่างระหว่าง Firewall ทั่วไป กับ Next-Generation Firewall
Explore Our Blog Posts
Stay updated with our latest blog posts.
ทำไมต้องมีการ Back up ข้อมูล
Wi-Fi 6 vs Wi-Fi 7: ก้าวสู่อนาคตของการเชื่อมต่อที่เร็วและเสถียรกว่าเดิม
Wi-Fi 7 in the Real World with HPE Aruba Networking
Join our newsletter for updates
Stay informed with our latest news and promotions