• Firewall ที่สามารถทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่นพร้อมกัน และใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างระบบตรวจจับและป้องกันการบุกรุกที่วิเคราะห์จากพฤติกรรมทราฟิก ข้อมูลซิกเนเจอร์ หรือกิจกรรมที่ต้องสงสัยได้
• Firewall ที่สามารถควบคุมถึงระดับ Application และสามารถตรวจแพ็กเก็ตแบบเจาะลึกจนรู้ต้นตอของ Application ได้อย่างละเอียด
• Firewall ที่ทำงานราบรื่นต่อเนื่องบนโครงสร้างพื้นฐานทุกแบบ ไม่สร้างความซับซ้อนเพิ่มขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานอยู่
• Firewall ที่ป้องกันอันตรายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ด้วยระบบแอนติไวรัสและตรวจสอบมัลแวร์ ที่มีการอัพเกรดตัวเองตลอดเวลา รวมถึงการสแกนหาช่องโหว่ต่างๆ บน Application ที่ใช้งานอยู่ ลดความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ช่วยเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยต่อข้อมูลที่รับส่งผ่านกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ยังคงรักษาความเร็วของเครือข่ายเดิมได้

‍

• จัดหา Next-generation Firewall รุ่น FortiGate 200F ติดตั้งพร้อม Configuration โดยเอนจิเนียร์ผู้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
• เพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัย การป้องกัน และตอบสนองต่อภัยคุกคามสำหรับ Package ที่มีความเสี่ยงได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถระงับ IP หรือ Package อันตรายที่โจมตีเข้ามาได้อย่างอัตโนมัติ
• รับรู้และควบคุม ถึงระดับ Application
• ตั้งค่า Feature รักษาความปลอดภัยขั้นสูงไว้อย่างครบถ้วน เพื่อให้การออกแบบระบบใหม่ ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยหลายๆ อย่างแบบเดิม และสามารถกำหนด Policy ได้อย่างละเอียด
• สามารถตรวจหาเหตุการณ์ที่มีความผิดปกติบนเครือข่าย โดยถ้าพบภัยคุกคาม IDS ก็จะทำการ Block จน Attacker ไม่สามารถเข้ามาข้างในของหน่วยงานได้
• On the job training ให้กับเจ้าหน้าที่ไอที เกี่ยวกับการบริหารจัดการ Firewall และการจัดทำรายงาน

‍

• เจ้าหน้าที่ไอทีของโรงพยาบาลในฐานะผู้ดูแลระบบได้ Firewall ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถติดตามและควบคุมทุกโซนได้อย่างรวมศูนย์
• เพิ่มความมั่นใจในการรับมือภัยคุกคามที่ซับซ้อน
• จัดการไวรัส มัลแวร์ต่างๆ รวมถึงการเข้าถึงที่ระดับ Application Layer ซึ่ง Firewall ระบบ Application control อยู่ในอุปกรณ์เดียว โดยไม่สร้างความซับซ้อนเพิ่มขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระการทำงานของผู้ดูแลระบบลงได้อีกด้วย

‍